Review: Film Scanner
เรื่องที่หลายๆท่านเรียกร้องให้ผมเขียนรีวิวตอนนี้ คือเรื่องเครื่องแสกน ที่จะเอามาแสกนฟิล์มให้ได้คุณภาพดี และราคาไม่แรง หลังจากเตรียมการทดสอบอยู่สักพัก วันนี้พร้อมเขียนให้อ่านแล้วครับ :)
เริ่มด้วยเครื่องแสกนที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงก่อน Plustek OpticFilm 8200i
Plustek OpticFilm 8200i
เครื่องแสกนฟิล์ม Plustek OpticFilm 8200i
เป็นเครื่องที่ออกแบบมาใช้แสกนฟิล์มโดยเฉพาะ แสกนฟิล์มได้ขนาดเดียวคือ ฟอร์แมท 135 หรือฟิล์ม 35 มิล.ที่เราเรียกกัน มีความละเอียดในการแสกนสูงถึง 7,200 dpi และราคาต่ำสุดในบรรดาเครื่องแสกนฟิล์ม มี 2 รุ่น คือ
Plustek 8200i SE (โปรแกรมแสกน SilverFast SE) ราคา 18,900 บาท
และ รุ่นพี่
Plustek 8200i AI (โปรแกรมแสกน SilverFast AI ตัวเต็ม) ราคา 22,490 บาท
เสป็คโดยรวมจากผู้ผลิต
เสป็คที่น่าสนใจคือ
Resolution = 7200 dpi
Bit Depth : 48 bit
Dynamic Range (D-Max) = 3.6
Scanning Speed ที่ 7200 dpi = 113 sec. หรือประมาณ 2 นาที ต่อรูป
ต่อมาคู่เปรียบเทียบคือ
Epson Perfection V800 Photo
Epson Perfection V800 Photo
เครื่องแสกน Epson Perfection V800 Photo เป็นเครื่องแสกนแบบ Flatbed ขนาด A4 สามารถแสกนได้ทั้งภาพถ่าย (Refective) ขนาด A4 (ภาพประมาณ 8x10 นิ้ว) และ ฟิล์ม (Film) โดยสามารถแสกนฟิล์มได้หลายหลายไซด์ คือตั้งแต่ 135, 120, 4x5 จนถึงฟิล์ม 8x10 นิ้ว กันเลยทีเดียว
ราคาในท้องตลาด (แถมโปรแกรมแสกน SilverFast SE) อยู่ที่ 29,000 บาท
เสป็คโดยรวมจากผู้ผลิต
เสป็คที่น่าสนใจคือ
Resolution = 6400 dpi
Bit Depth : 48 bit
Dynamic Range (D-Max) = 4.0
แสกนฟิล์มได้เกือบทุกฟอร์แมท 135, 120, 4x5, 8x10
Scanning Speed ที่ 4,800 dpi = 67 วินาที ต่อรูป (ไม่บอกความเร็วที่ 6,400 dpi)
In the box
ในขั้นตอนการทดสอบครั้งนี้ ผมได้ลองเทสต์ด้วยการแสกน ฟิล์มขาวดำ ขนาด 135
รูป “ลุงติ๊ก” ซึ่งเป็นรูปที่ผมถ่ายไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 (30 ปี) ด้วยฟิล์ม Kodak T-Max 400 ล้างด้วยน้ำยา T-Max Developer เวลา Normal ซึ่งเป็นเนกาตีฟที่ถือว่าถ่าย+ล้างมา พอดี
ภาพจากฟิล์ม T-Max 400 ขนาด 135 ที่นำมาใช้ทดสอบเครื่องแสกน
ผมเริ่มต้นเทสต์เครื่อง Plustek OpticFilm 8200i ก่อน เพราะยืมเค้ามา ไม่เคยใช้มาก่อน ลองเล่นหลายวัน จนพอคล่อง เจ้า Plustek 8200i มีโปรแกรมที่ใช้แสกนได้ 2 ตัว คือ โปรแกรมของ Plustek เอง ในโหมด Quick Scan และโปรแกรม SilverFast 8 SE เมื่อแสกนในโหมด IntelliScan
เริ่มจากการเมาท์ฟิล์มเข้ากับ Holder ก่อน โดยโฮลเดอร์ที่ให้มา จะเมาท์ฟิล์มได้ทีละแถว จำนวน 6 เฟรม เวลาแสกนก็ต้องใช้มือดันเพื่อแสกนไปทีละเฟรมละเฟรม
เริ่มแสกนโดยการกดปุ่มที่หน้าเครื่อง
กดปุ่มแสกนที่หน้าเครื่อง
โหมด QuickScan
โหมด QuickScan คือการแสกนง่ายๆ แบบรวดเร็ว ผมลองแสกนโดยไม่ปรับแต่งโทนภาพ ลองเปลี่ยนเพียงความละเอียดในการแสกนเท่านั้น รูปที่ได้จะโอเว่อกว่าปกติ
เวลาในการแสกน ผมลองทดสอบแสกนหลายๆรอบ และจดเวลามาได้ดังนี้
Quick scan โหมด B&W ที่ 2400 ppi prescan = 15 sec.
Scanning Speed = 35 sec
Quick scan โหมด RGB 24 bit ที่ 2400 ppi
prescan = 15 sec.
Scanning Speed = 35 sec
Quick scan โหมด RGB 24 bit ที่ 3600 ppi
Scanning Speed = 50 sec
ลองเทสต์ละเอียดขึ้นจาก 24 bit เป็น 48 bit
Quick scan โหมด RGB 48 bit ที่ 3600 ppi
Scanning Speed = 50 sec
Quick scan โหมด RGB 24 bit ที่ 7200 ppi
Scanning Speed = 1.30 min
Quick scan โหมด RGB 48 bit ที่ 7200 ppi (ความละเอียดสูงสุด)
Scanning Speed = 2.30 min.
ต่อมาลองเทสต์แสกนโหมด IntelliScan ด้วยโปรแกรม SilverFast 8
โปรแกรม SilverFast 8 AI Studio
ผมมีการเซ็ทติ้งโปรแกรมอยู่ 2 จุด จุดแรก ลองตั้งความละเอียดดู 2 แบบ คือของเดิม 48 เป็น 24 bit กับเลือกเป็น 48 bit กับเลือกโปรไฟล์ฟิล์มเป็น Kodak T-Max 400 โดยไม่ปรับแต่งอย่างอื่น พอกด PreScan ผลที่ได้ภาพออกมาพอดีครับ ไม่โอเว่อเหมือนโหมด QuickScan
จุดที่ 2 เลือกโปรไฟล์ฟิล์ม ให้ตรงกับฟิล์มที่จะแสกน ในที่นี้ผมเลือก Kodak - T-Max - 400
ความละเอียด ลองเลือกหลายๆแบบ จาก 2,400dpi ไปจนถึง 7,200 dpi
SilverFast Ai Studio 48 to 24 bit ที่ 2400 ppi
prescan = 20 sec.
Scanning Speed = 40 sec
SilverFast Ai Studio 48 bit ที่ 2400 ppi
Scanning Speed= 40 sec
SilverFast Ai Studio 48 bit ที่ 3600 ppi
Scanning Speed = 1.30 min
SilverFast Ai Studio 48 bit ที่ 4800 ppi
Scanning Speed = 4.10 min
SilverFast Ai Studio 48 bit ที่ 7200 ppi
Scanning Speed = 5.30 min
เปรียบเทียบภาพที่ได้จาก Plustek 8200i ระหว่าง 2 โปรแกรม
Plustek 8200i
Plustek 8200i
ผลที่ได้คือ : แสกนด้วยโปรแกรม SilverFast ดีกว่า QuickScan มาก “ต่างกันฟ้ากับเหว”
แปลว่า โหมด QuickScan ตัดทิ้งไปเลยไม่ใช้ดีกว่า ควรใช้แต่โปรแกรม SilverFast อย่างเดียว
ต่อมา มาดูเครื่อง Epson V800 มั่ง
เครื่องแสกน Epson V800 มีโปรแกรมที่ใช้แสกนได้ 2 ตัวเหมือนกัน คือ
โปรแกรมของเอปสันเอง ชื่อ Epson Scan กับ โปรแกรม Silver Fast 8 SE
(ตัวเดียวกับที่แถมเครื่อง Plustek 8200i ถ้าอยากได้โปรแกรมตัวเต็ม ต้องเสียเงินอัพเกรดเป็นรุ่น AI)
เริ่มจากการเมาท์ฟิล์มเข้า Holder โดยได้ทีละ 3 แถว แถวละ 6 รวม 18 ภาพ (ในภาพฟิล์มตัดมาแถวละ 5 เฟรม ไม่ถึง 6 เลยจะได้ 15 ภาพ)
โปรแกรม Epson Scan ก็มีหลายโหมดให้เลือก แนะนำเลือกโหมด Professional เลย
พอเข้ามาในโปรแกรม เราก็กดปุ่ม Preview ก่อน
รูปบนเป็นการพรีวิวแบบ Thumbnail รูปล่างเป็นการพรีวิวแบบ Normal เราสามารถเลือดได้ แบบ Thumbnail จะเน้นเร็วสะดวก โปรแกรมจะเลือกเฟรมในการแสกนให้เอง แบบ Normal เราจะเลือกเฟรมเอง
Batch Scan
หลังพรีวิวเห็นภาพแล้ว เราก็เลือกภาพขึ้นมาก่อน 1 ภาพ โดยเลือกพื้นที่ และกด Zoom เพื่อดูรายละเอียดภาพ
พอซูมเข้ามาแล้ว เราก็ปรับเลือกพื้นที่การแสกนให้พอดี เลือกความละเอียดที่ต้องการแสกน ผมลองเลือกให้ใกล้เคียงกับเครื่อง Plustek ได้เวลาออกมาตามด้านล่าง
โปรแกรม Epson Scan โหมด Professional
prescan = 52 sec.
Epson Scan 48 bit 2400 ppi
Scanning Speed = 55 sec
Epson Scan 48 bit 4800 ppi
Scanning Speed = 1.40 min
Epson Scan 48 bit 6400 ppi
Scanning Speed= 2.10 smin
Epson Scan 48 bit 12800 ppi
Scanning Speed = 3.00 min
ต่อมาลองแสกน Epson V800 ด้วยโปรแกรม SilverFast 8 AI
พรีวิวแบบ Normal
ข้อดีของเครื่องแสกน Epson ที่เหนือกว่าคือ เมื่อเซ็ทติ้งค่าได้ 1 ภาพ แล้ว สามารถสั่งแสกนต่อเนื่องให้ครบทุกภาพได้เลย ปล่อยให้เครื่องแสกนไปเรื่อยๆ โดยเราลุกไปทำอย่างอื่นได้
พรีวิวแบบ Thumbnail
เลือกภาพที่ต้องการ แล้วกด Zoom เพื่อดูรายละเอียด
ลองเปลี่ยนมาแสกนแบบ 48 bit
เมื่อตั้งค่าได้แล้วก็สั่งให้แสกนหมดทุกภาพ ด้วยฟังชั่น Batch Scan
เวลาในการแสกน V800 ด้วยโปรแกรม SilverFast 8
SilverFast Ai Studio 48 to 24 bit 2400 ppi
prescan = 25 sec.
Scanning Speed = 50 sec
SilverFast Ai Studio 48 bit 2400 ppi
Scanning Speed = 1 min
SilverFast Ai Studio 48 bit 4800 ppi
Scanning Speed = 2.05 min
SilverFast Ai Studio 48 bit 6400 ppi
Scanning Speed = 2.45 min
SilverFast Ai Studio 48 bit 12800 ppi
Scanning Speed =3.30 min
มาดูไฟล์ภาพเปรียบจาก V800 ทั้งสองโปรแกรม
ให้คุณภาพไฟล์ดีงามทั้งสองโปรแกรม ดีเทลดี โทนเนียนละเอียด สวยงาม
ส่วนตัวผมใช้โปรแกรม EpsonScan มากกว่า เพราะเซ็ทง่าย สะดวก และเร็วดี (ทั้งที่เสียตังค์ไปอัพเกรด SilverFast เป็นตัว AI มา 99 ยูโร )
ลองเปรียบเทียบเวลาในการแสกนของทั้ง 2 เครื่อง ดูเฉพาะโปรแกรม SilverFast 8 ตัวเดียวกัน
ที่ Res 48 bit 2400 ppi
8200i : Scanning Speed = 40 sec
V800 : Scanning Speed = 50 sec
เวลาใกล้เคียงกัน
ที่ Res 48 bit 4800 ppi
8200i : Scanning Speed = 4.10 min
V800 : Scanning Speed = 2.05 min
พอความละเอียดสูง 8200i จะช้ากว่าเป็นเท่าตัว ยิ่งสูงกว่านี้ก็ยิ่งช้าลง
**สำหรับการแสกนที่ 48 bit 4800 dpi จะได้ไฟล์ขนาดประมาณ 190 MB. ซึ่งถือว่าความละเอียดสูงแล้ว สามรถนำไปพิมพ์ภาพขนาดโปสเตอร์ หรือ A1 แบบสบายๆ
ทีนี้มาดูไฟล์ภาพเปรียบเทียบกันแบบชัดๆ แสกนด้วยโปรแกรม SilverFast 8 รุ่นเดียวกัน
Plustek OpticFilm 8200i มุมซ้าย กับ Epson Perfection V800 Photo มุมขวา
เต็มฟิล์ม
ภาพขยายที่ 1
ภาพขยายที่ 2
หมายเหตุ : เสป็คคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทดสอบแสกน
CPU : AMD FX-8320 Eight-Core
Ram : DDR3 = 32.0 GB.
Disk : SSD Corsair 240 GB.
Graphic card : GTX 1060 6 GB.
บทสรุป
Plustek 8200i ราคาถูกว่า Epson V800 อยู่ประมาณหมื่นนึง
Epson V800 แสกนฟิล์มได้หลายขนาดมากกว่า ได้ทั้ง 135,120, 4x5 เหมาะกับคนที่ถ่ายกล้องฟิล์มหลายฟอร์แมท
Plustek 8200i ความละเอียดสูงกว่าที่ 7,200 dpi Epson V800 อยู่ที่ 6,400 dpi แต่ปกติเราจะแสกนเต็มที่ก็ที่ 4,800 dpi
Epson V800 มี D-Max สูงกว่าที่ 4.0 Plustek 8200i อยู่ที่ 3.6 , ค่า D-Max สูงมีจะในการเก็บรายละเอียดได้กว้างกว่า
เรื่องความเร็ว ถ้าแสกนที่ 2,400 dpi พอๆกัน , แต่ที่ 4,800 dpi Epson V800 จะเร็วกว่าเท่าตัว
Plustek 8200i แสกนฟิล์ม 135 ได้ทีละภาพ Epson V800 แสกนได้สูงสุดทีละ 18 ภาพ
เรื่องคุณภาพไฟล์ ให้ภาพมันบรรยายเองนะครับ
เขียนที่บ้าน
9/07/2019
สมชายการช่าง